วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2558

วิ่งแบบเด็กๆ

คราวที่แล้วว่าด้วยเรื่องท่าวิ่งที่ถูกต้อง (จะวิ่งทั้งที มันต้องมี ท่าทาง!!!!) มีผลทำให้วิ่งเร็วขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง ที่สำคัญหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วย

ถ้าจำตอนเราเด็กๆได้ หรือถ้าจำไม่ได้ลองออกไปนอกบ้านตามหาเด็กสักคนก็ได้ เวลาเด็กวิ่งพวกไม่เคยนึกถึงรองเท้าเลย คิดจะวิ่งเล่นก็วิ่งไปอย่างรวดเร็ว สักพักเสียงพ่อแม่ก็ตามมา 

ลูกกกกกก กลับมาใส่รองเท้าก่อน 

แปลกมั้ยทำไมเด็กถึงวิ่งได้โดยไม่ต้องใส่รองเท้าแต่พอโตขึ้นกลายเป็นเราต้องใส่รองเท้าวิ่ง ธรรมชาติของมนุษย์เกิดมาตัวเปล่าๆอยู่แล้ว เวลาเด็กๆวิ่งเค้าจึงมีสัญชาติญาณธรรมชาติของมนุษย์เต็มๆ ที่ยังไม่ได้ถูกครอบงำด้วยกระบวนการคิดต่างๆ ทำให้การวิ่งของเค้ามีการปรับสมดุลและความยืดหยุ่นรองรับแรงต่างๆที่เกิดขึ้นจากการวิ่งด้วยร่างกายตามธรรมชาติ หรือไม่ก็ดูเหล่าชาวเขาก็ได้วิ่งกันเป็นกิโลๆโดยไม่ต้องใส่รองเท้า

แล้วทำไมโตขึ้นเราถึงได้ลืมสัญชาติญาณเหล่านั้นล่ะ ไม่ยากเลยคำตอบอยู่ตรงสิ่งที่อยู่ใต้ติงเราเวลาเราออกไปนอกบ้าน คิดออกยางงง ก็พื้นงัยล่ะ(อ๊ากกกก าสเำก้ดเา่้กดาเมืดา้ื มุขกากยังจะเล่น) 

"รองเท้านั่นเอง" 

อ้าวๆพวกกุใส่มาตั้งแต่เด็กจะมาโทษรองเท้ากันง่ายๆได้งัย จริงๆไม่ได้โทษรองเท้านะ เพราะรองเท้าเป็นต้นเหตุเท่านั้นเอง พอเราใส่รองเท้าร่างกายเราก็จะขาดความระวังในการรับแรงต่างๆ ยิ่งนิ่มเท่าไหร่ยิ่งขาดความระวังมากขึ้นเท่านั้น มันก็เลยเป็นเหตุให้สัญชาตญาณของท่าวิ่งที่ถูกต้องหายไป

"เอ็งอย่ามาเกรียน แล้วท่าวิ่งกุผิดตรงไหน ก็วิ่งได้นิไม่เห็นเป็นไร" ที่บอกมาเมื่อกี้นะ ไม่ได้เหมาว่าเราทุกคนพอโตขึ้นจะวิ่งผิดท่า แต่โดยส่วนใหญ่เท่านั้นเอง เดี๋ยวมาต่อคราวหน้าว่าท่าวิ่งแบบไหนเป็นอย่างไร

ขอบคุณที่รับชมจร้าา

1 ความคิดเห็น:

  1. วันนี้ออกไปวิ่งเห็นคาตาเด็กสามคนวิ่งเหมือนกันหมด ลงเท้าตรง center of mass midfoot 2 คน forefoot 1 คน สุดยอดจริงๆ

    ตอบลบ